จีนยังหนุนรัสเซีย สหรัฐเตือนระวังเลือกผิดข้าง! ชาติตะวันตกรวมตัวกรุงเคียฟ
Highlight
จีนยังพร้อมหนุนรัสเซียต่อไป โดยนายสี จิ้มผิง ได้ต่ิสายโทรศัพท์ถึง ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เนื่องในโอกาสคล้ายวันเกิดอวยพร และพร้อมอยู่ข้างรัสเซีย ทั้งด้านความมั่นคงและอธิปไตย ด้านสหรัฐโต้กลับระวังเลือกผิดข้าง และผู้นำชาติตะวันตกปรากฎตัวที่กรุงเคียฟให้กำลังใจผู้นำยูเครน พร้อมความช่วยเหลือเพิ่มเติม
ในการพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียทางโทรศัพท์ในวันคล้ายวันเกิดของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน นายสีรับปากว่า จะสนับสนุนรัสเซียต่อไป ด้านสหรัฐฯ เตือนระวังอยู่ผิดฝั่งในประวัติศาสตร์
นายสี กล่าวว่า ทั้งสองประเทศจะ "เกื้อกูลซึ่งกันและกันทั้งในแง่ของความมั่นคงและอธิปไตย" โดยนายสี เน้นย้ำเรื่องสถานการณ์ในยูเครนว่า จีน "ประเมินสถานการณ์อย่างอิสระ บนพื้นฐานของบริบททางประวัติศาสตร์"
ขณะที่แถลงการณ์ของรัฐบาลรัสเซีย ระบุว่า นายสี "ได้ระบุถึงความชอบธรรม ในการกระทำของรัสเซียเพื่อปกป้องผลประโยชน์พื้นฐานของประเทศจากการเผชิญกับแรงท้าทายด้านความมั่นคงที่เกิดจากการกระทำภายนอก"
การพูดคุยทางโทรศัพท์นี้ เกิดขึ้นในวันคล้ายวันเกิดครบ 69 ปี ของนายสี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าทั้งสองฝ่าย ต้องการกระชับความสัมพันธ์ส่วนตัวให้แน่นแฟ้นมากขึ้น โดยในปี 2019 นายสีได้ใช้เวลาช่วงวันเกิดของเขากับนายปูติน ในประเทศทาจิกิสถาน และผู้นำทั้งสองเคยคุยกันในวันเกิดของนายสีมาแล้วในปี 2013 และ 2018
สหรัฐเตือนจีน เสี่ยงเลือกข้างผิด
นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน จีนเคยพยายามที่จะรักษาความเป็นกลางในความขัดแย้งนี้ เรียกร้องให้หาทางออกอย่างสันติ
แต่ในการหารือทางโทรศัพท์วันนี้ สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ประธานาธิบดีจีน ได้ให้ความมั่นใจแก่ประธานาธิบดีรัสเซียว่า รัฐบาลจีนจะสนับสนุน "อธิปไตยและความมั่นคง" ของรัสเซีย
แต่สหรัฐฯ ได้แสดงความกังวล และเตือนชาติต่าง ๆ ที่เลือกเข้าข้างนายปูตินในการรุกรานยูเครนว่า "จะอยู่ฝั่งผิดในประวัติศาสตร์"
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานโดยอ้างโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ว่า "จีนอ้างว่าจะเป็นกลาง แต่พฤติกรรมของจีนชัดเจนว่า จีนยังคงมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับรัสเซีย"
ข้อมูลศุลกากรจีนระบุว่า การค้าทวิภาคีของจีนกับรัสเซียเพิ่มขึ้น 28% ในไตรมาสแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ผู้นำชาติตะวันตกรวมกันตัวที่กรุงเคียฟ
นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี และนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี ของอิตาลี ได้โดยสารรถไฟเที่ยวกลางคืนจากโปแลนด์ไปยังกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับยูเครน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายมาครง กล่าวเมื่อมาถึงกรุงเคียฟว่า "นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ เป็นสัญญาณของความเป็นเอกภาพที่เราส่งไปยังชาวยูเครน" เขาบอกด้วยว่าการเยือนในครั้งนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดก่อนที่จะมีการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป ซึ่งจะหารือเกี่ยวกับความพยายามของยูเครน ในการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป
นายมาครง ยังได้กล่าวที่เมืองเอียร์ปิน ใกล้กรุงเคียฟว่า ยูเครนจะต้องมีชัยในสงครามสู้รบกับรัสเซีย และ "ฝรั่งเศสอยู่ข้างยูเครนมาโดยตลอด ยูเครนจะต้องต้านทานให้อยู่ และชนะ"
ขณะที่นายชอลซ์ กล่าวว่า การเยือนกรุงเคียฟของผู้นำเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี นอกจากจะเป็นการแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันแล้ว ยังเป็นการรักษาคำมั่นว่า จะสนับสนุนและช่วยเหลือยูเครนและประชาชนชาวยูเครนต่อไปด้วย
การเยือนของผู้นำทั้ง 3 ชาติ เกิดชึ้นหลังจากใช้เวลาเตรียมการนานหลายสัปดาห์ และเป็นการเยือนเพื่อยุติเสียงวิพากษ์วิจารณ์ภายในยูเครนเกี่ยวกับท่าทีของผู้นำยุโรปต่อสงครามที่เกิดขึ้น โดยชาวยูเครนเห็นว่า ฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลีซึ่งถูกวิจารณ์น้อยกว่า มีความล่าช้าในการช่วยเหลือ ทั้งการส่งอาวุธ และยังมองเศรษฐกิจของประเทศตัวเองว่าสำคัญมากกว่าความมั่นคงของยูเครน
ที่มา : BBC, TNN World