World Wrap Up

• ระดับปิดตลาดของดัชนี S&P 500 เมื่อวันศุกร์ ยืนยันถึงภาวะตลาดกระทิงของหุ้นสหรัฐ  ดัชนี S&P 500 ปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งแรกในรอบสองปี แรงหนุนของตลาดในรอบนี้มาจากการปรับตัวขึ้นของกลุ่มเทคฯ จากแนวโน้มการเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI โดยการเคลื่อนไหวของหุ้นเจ็ดนางฟ้า หรือ หุ้นเทคฯ ขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐ 7 ตัว ประกอบด้วย Apple, Microsoft, Alphabet, Amazon, META, Tesla และ Nvidia ถือว่าเป็นผู้เล่นสำคัญที่ทำให้ตลาดเข้าสู่ภาวะกระทิงในรอบนี้ ทั้งนี้ หุ้นเทคโนโลยี 7 ตัวนี้ มีน้ำหนักต่อดัชนี S&P 500 สูงถึง 27% และมีน้ำหนักต่อ Nasdaq 100 ถึง 55% นอกจากนี้ยังมีประเด็นอื่น ๆ ที่ช่วยหนุนภาพตลาดอีกด้วย เช่น แนวโน้มเศรษฐกิจดีกว่าคาดโดยเฉพาะตลาดแรงงาน และเงินเฟ้อที่มีสัญญานการปรับลดลง 

• สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ (KCNA) รายงานว่า นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียแสดงความประสงค์ในการเดินทางเยือนเกาหลีเหนือโดยเร็วที่สุด ในรายงานระบุว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่นายปูตินจะเดินทางเกาหลีเหนือ และพร้อมเปิดประเทศต้อนรับนายปูตินเข้าสู่กรุงเปียงยางอย่างอบอุ่นและจริงใจอย่างที่สุด ในฐานะมิตรสหายที่ใกล้ชิดสนิทสนมที่สุดของประชาชนชาวเกาหลีเหนือ ขณะที่สำนักข่าวเกียวโด คาดว่านายปูตินจะเดินทางเยือนเกาหลีเหนือในช่วงเดือนมี.ค. ก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซีย และนับเป็นการเยือนเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรกของนายปูติน นับตั้งแต่เดือนก.ค. 2543 

• กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (20 ม.ค.) ว่าพายุฤดูหนาวและความหนาวเย็นเข้าปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ประมาณ 2 ใน 3 ของสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ชาวอเมริกันต้องเผชิญ พายุหิมะ ฝนเยือกแข็งและฝนตกหนัก ซีบีเอสนิวส์ รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากสภาพอากาศในสหรัฐฯ ที่ยืนยันแล้ว 83 รายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในรัฐเทนเนสซีรายงานจำนวนผู้เสียชีวิต 19 รายเนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย และอีก 16 รายในรัฐโอเรกอน ผู้เสียชีวิตส่วนที่เหลือได้รับการรายงานในรัฐอื่นๆ อย่างน้อย 8 รัฐ รวมถึงอิลลินอยส์ เพนซิลเวเนีย มิสซิสซิปปี้ วอชิงตัน เคนตักกี้ นิวยอร์ก และนิวเจอร์ซีย์ ขณะที่ในออสเตรเลียนั้น ประชาชนกลับต้องเผชิญกับอากาศที่ร้อนแบบสุดขีด โดยกรมอุตุนิยมวิทยาแห่งออสเตรเลีย ประกาศเตือนคลื่นความร้อนระดับ "รุนแรง" ซึ่งเป็นระดับอันตรายสูงสุด ในพื้นที่บางส่วนของเวสเทิร์นออสเตรเลีย เซาท์ออสเตรเลีย รวมถึงพื้นที่ต่าง ๆ ของควีนส์แลนด์ นิวเซาท์เวลส์ และนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี ในเมืองเหมืองแร่พิลบาราของพาราเบอร์ดู ห่างจากเมืองเพิร์ธไปทางเหนือประมาณ 1,500 กิโลเมตรมีการคาดการณ์ว่าจะอุณหภูมิสูงถึง 48 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยสูงสุดเดือนมกราคมมากกว่า 7 องศา นอกจากนี้ คลื่นความร้อนกำลังแผ่ขยายอยู่ ณ ขณะนี้เพิ่มความเสี่ยงให้เกิดไฟป่ามากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ นักอุตุนิยมวิทยาระบุว่าความรุนแรงของสภาพอากาศตอนนี้เป็นผลมาจากปรากฏการณ์เอลนิโญซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ร้อนมีอากาศร้อนจัดและแห้งแล้ง ส่วนพื้นที่เขตหนาวก็จะมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่าปกติ

• อิหร่านประกาศเมื่อวันเสาร์ (20 ม.ค.) ว่าจะดำเนินการตอบโต้อิสราเอลอย่างสาสม หลังจากที่อิสราเอลยิงขีปนาวุธถล่มอาคารที่ใช้เป็นฐานทัพของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน (IRGC) ในกรุงดามัสกัสของซีเรีย ส่งผลให้มีทหารกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านเสียชีวิต 5 นาย และทหารซีเรียเสียชีวิตอีกหลายนาย ซึ่งยังไม่สามารถระบุจำนวนได้ ทั้งนี้ นายนัสเซอร์ คานาอานี โฆษกกระทรวงต่างประเทศของอิหร่าน กล่าวกับสื่อของรัฐบาลอิหร่านว่า การโจมตีทางอากาศดังกล่าว นับเป็นความพยายามอย่างสิ้นหวังที่จะแพร่กระจายความไม่มั่นคงในภูมิภาค พร้อมเน้นย้ำว่า "อิหร่านขอสงวนสิทธิ์ในการตอบโต้การก่อการร้ายของระบอบไซออนิสต์ปลอม" ในเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม

• สรุปภาพรวมการลงทุนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 ม.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ และ ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี ขานรับการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ดีเกินคาด ขณะที่ราคาทองคำขยับขึ้นเช่นกัน เนื่องจากได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ส่วนราคาน้ำมันปรับลดลง เนื่องจากปริมาณน้ำมันในตลาดที่เพิ่มขึ้นและแนวโน้มอุปสงค์ที่อ่อนแอจากจีน
• DJIA ปิดที่ 37,863.80 จุด เพิ่มขึ้น 395.19 จุด หรือ +1.05%
• S&P500 ปิดที่ 4,839.81 จุด เพิ่มขึ้น 58.87 จุด หรือ +1.23% 
• Nasdaq ปิดที่ 15,310.97 จุด เพิ่มขึ้น 255.32 จุด หรือ +1.70%
• ทองคำปิดที่ 2,029.30 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.70 ดอลลาร์ หรือ 0.38% 
• น้ำมัน WTI ปิดที่ 73.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.67 ดอลลาร์ หรือ 0.9%

• นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ 2 รายการในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยในวันพฤหัสบดีที่ 25 ม.ค.นี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2566 ซึ่งจะเป็นตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และจากนั้นในวันศุกร์ที่ 26 ม.ค. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนธ.ค.

https://www.reuters.com/markets/us/sp-500-confirms-bull-market-with-record-close-2024-01-19/

https://www.cnbc.com/2024/01/19/this-record-breaking-market-just-keeps-going-higher-and-higher-heres-why.html?__source=androidappshare  

https://www.reuters.com/world/putin-showed-intention-visit-pyongyang-soon-north-korea-says-2024-01-20/ 

https://www.reuters.com/world/us/deadly-winter-weather-keeps-icy-grip-across-much-us-2024-01-20/ 

https://www.reuters.com/world/asia-pacific/australia-sweats-heatwave-lifting-bushfire-risk-amid-el-nino-2024-01-21/