ราคาโกโก้พุ่งทะยานกว่า 138% ในปีนี้ เหตุจากเอลนีโญและโรคพืช

ในการซื้อขายผ่านตลาดล่วงหน้าสำหรับสินค้าเกษตรอย่างโกโก้ เรียกได้ว่าบรรยากาศมีความร้อนแรงอย่างมาก โดยการเคลื่อนไหวของราคาโกโก้ล่าสุดนั้นทะยานขึ้นแตะระดับ 10,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 363,000 บาทต่อเมตริกตัน นับเป็นครั้งแรกราคาโกโก้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และ นับตั้งแต่ต้นปีราคาโกโก้ พุ่งขึ้นไปแล้วเกือบ 138%

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาโกโก้วิ่งขึ้นแบบฝุ่นตลบแบบนี้ เป็นผลพวงมาจาก

1. สภาพอากาศที่เลวร้ายจากผลของเอลนีโญที่นำอากาศร้อนและแห้งแล้งมาสู่พื้นที่เพาะปลูก

2. โรคในพืชได้ส่งผลกระทบต่อผลผลิตโกโก้ในแอฟริกาตะวันตกซึ่งเป็นภูมิภาคที่สามารถผลิตโกโก้สูงถึง 70% ของการผลิตทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดสองราย ได้แก่ ไอวอรี่โคสต์และกานาซึ่งได้รับผลกระทบจากทั้งฝนตกหนัก ความร้อนแห้ง และ โรคผลดำ (blackpod desease) ที่กระทบต่อคุณภาพของผลผลิตโกโก้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน 

ตามรายงานขององค์การโกโก้นานาชาติเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567

3. สภาพถนนที่ไม่เอื้ออำนวยก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กระทบต่ออุปทานในตลาดโลกด้วยเพราะทำให้การลำเลียงโกโก้ที่มีอยู่ไปยังท่าเรือเพื่อทำการส่งออกทำได้ยากมากขึ้น จากข้อมูลล่าสุดพบว่าจำนวนโกโก้ที่ถูกขนส่งไปยังท่าเรือในไอวอรีโคสต์ลดลง 28% และ กานาลดลง 35% เนื่องจากปัญหาหลายอย่างประกอบกัน

ทั้งนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงโกโก้านว่า ขณะนี้ราคาโกโก้แพงยิ่งกว่าทองแดง ซึ่งเป็นโลหะสำคัญในภารอุตสาหกรรมอีก ทำผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารที่มีเมื่อเป็นส่วนประกอบได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น อย่าง ผู้ผลิตช็อกกาแลตระดับโลก อย่าง “Hershey”  (เฮอร์ชีย์) ได้ออกมาคาดการณ์ว่าการเติบโตของกำไรในปีนี้จะลดลงเนื่องจากราคาโกโก้ที่สูงขึ้น  ขณะที่การรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ลดลงประมาณ 12% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน