28 มีนาคม 2567
516

เรือชนสะพานบัลติมอร์ถล่ม ! กระทบการขนถ่ายรถยนต์ - กระบะเล็ก เร่งประเมินผลกระทบ

เรือชนสะพานบัลติมอร์ถล่ม ! กระทบการขนถ่ายรถยนต์ - กระบะเล็ก เร่งประเมินผลกระทบ

ท่าเรือเมืองบัลติมอร์ของสหรัฐฯ เป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดอันดับที่ 11 ของสหรัฐฯ และเป็นท่าเรือที่มีความคึกคักมากที่สุดสำหรับการขนย้ายรถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็ก ล่าสุดท่าเรือแห่งนี้ได้ถูกปิดเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม  หลังจากเกิดเหตุเรือสินค้าขนาดใหญ่พุ่งชนตอม่อสะพานแขวนความยาวอันดับที่ 3 ของโลกที่เมืองดังกล่าว ส่งผลให้สะพานพังถล่มลงมาทั้งสาย รวมถึงมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตด้วย บริษัทโลจิสติกส์ต่าง ๆ ทะยอยจัดเรียงสินค้าใหม่และโยกย้ายไปขนส่งผ่านท่าเรืออื่น ๆ บริเวณชายฝั่งตะวันออกเพื่อขนส่งสินค้านำเข้าและส่งออก

ทางด้าน นาย Dimitris Psillakis CEO ของ Mercedes-Benz USA ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อเพื่อเร่งอธิบายสถานการณ์การขนส่งรถยนต์ของบริษัท เมืองบัลติมอร์เป็น 1 ในศูนย์กระจายสินค้า 4 แห่งของบริษัท แต่ท่าเรือนำเข้าอื่น ๆ เช่น เมืองบรันสวิก รัฐจอร์เจีย ก็จะช่วยบรรเทาแรงกดดันในการนำเข้าได้ นอกจากนี้ผู้บริหารจากค่ายดาวสามแฉกบอกว่า “ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบ สถานการณ์ยังคงมีความคืบหน้าและทางบริษัทจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่าจะพบวิธีในการจัดหายานพาหนะออกสู่ตลาด”

ส่วนทาง Volkswagen Group of America ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Volkswagen ของเยอรมนี เปิดเผยเช่นกันว่า บริษัทคาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการที่หยุดชะงักของท่าเรือ เนื่องจากโรงงานของบริษัทตั้งอยู่บริเวณปลายสุดของสะพาน แต่อาจประสบกับความล่าช้าบ้างในการขนส่งด้วยรถบรรทุก เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการจราจรในพื้นที่

ขณะที่ Volvo Group ของผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติสวีเดน คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ แต่กำลังตรวจสอบโรงงานผลิตในสหรัฐฯ เช่นเดียวกันกับ General Motors, Ford, Toyota, Nissan, และ Mitsubishi ต่างพูดในทำนองเดียวกันว่า กำลังประเมินสถานการณ์และมีแนวโน้มว่าจะต้องเปลี่ยนเส้นทางการจัดการ แต่ไม่ได้คิดว่าจะเกิดการหยุดชะงักอย่างมีนัยสำคัญ 

“แม้ว่าท่าเรือเมืองบัลติมอร์จะไม่ใช่ท่าเรือหลักสำหรับการดำเนินงานในอเมริกาเหนือของหลายบริษัท แต่ก็คงจะหลีกเลี่ยงผลกระทบไม่ได้ ทุกบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาผลกระทบในระยะยาวและมาตรการรับมือ

ทั้งนี้ ตามข้อมูลของสำนักงานผู้ว่าการรัฐแมริแลนด์ ท่าเรือบัลติมอร์รองรับรถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็กได้ 847,158 คันในปีที่แล้ว มีการขนส่งสินค้าหลากหลายประเภทไปยังท่าเรืออื่น ๆ เช่น ท่าเรือในนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์  เวอร์จิเนีย  จอร์เจีย;  และเซาท์แคโรไลนา

Christian Roeloffs ซีอีโอของแพลตฟอร์มลอจิสติกส์ Container xChange กล่าวว่าท่าเรือบัลติมอร์เป็น "ประตูสำคัญสำหรับการขนส่งสินค้าเฉพาะทางและการขนถ่ายเทกอง โดยทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมหลักในห่วงโซ่อุปทานต่าง ๆ ความล่าช้าในการเคลื่อนย้ายสินค้าอาจนำไปสู่การขาดแคลนสินค้าคงคลัง ส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่ต้องพึ่งพาการส่งมอบตรงเวลา เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ต้องใช้การประกอบที่มาจากส่วนต่างๆ ของโลก”

โดยสรุปแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวก็เป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่สร้างความตื่นตระหนกอีกครั้งต่อระบบลอจิสติกโลก ในขณะที่ความผันผวนจากการโจมตีเรือที่แล่นผ่านทะเลแดงไปยังคลองสุเอซยังคงดำเนินอยู่ เพราะถ้าเหตุการณ์เหล่านี้มีความรุนแรงขึ้นก็จะส่งผลต่อระบบ Supply Chain โลกได้ ซึ่งก็จะทำให้เกิดภาวะชะงักงัน ต้นทุนการขนส่งเพิ่มสูงขึ้นจากการเปลี่ยนเส้นทางขนส่ง รวมถึงปัญหาอื่นๆ ที่จะตามมาอีกมากมาย

ติดต่อโฆษณา!