27 มิถุนายน 2567
241

World Wrap Up

World Wrap Up
สรุปประเด็นข่าวร้อนรอบโลก ประจำวันที่ 27 มิ.ย. 67

ทั่วโลกต่างจับตามองการดีเบตครั้งสำคัญระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อชิงคะแนนเสียงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พ.ย. สำนักข่าว CNN เป็นผู้จัดการดีเบตครั้งนี้ ซึ่งจะถ่ายทอดสดทั่วโลก การดีเบตจะมีขึ้นในคืนวันที่ 27 มิ.ย. เวลา 21.00 น. - 22.30 น. ตามเวลาสหรัฐฯ หรือช่วงเช้าวันศุกร์ (28 มิ.ย.) เวลา 08.00 น. - 09.30 น. ตามเวลาไทย การดีเบตจะจัดขึ้นในสตูดิโอของ CNN โดยไม่มีผู้ชมและไม่มีการใช้อุปกรณ์ประกอบฉาก ไมโครโฟนของผู้ที่ยังไม่ถึงเวลาพูดจะถูกปิดเสียง คาดว่านายทรัมป์จะอภิปรายอย่างดุดันและโจมตีจุดอ่อนของไบเดนในเรื่องอายุ สุขภาพ และประเด็นเศรษฐกิจ รวมถึงการไหลทะลักของผู้อพยพตามแนวชายแดนสหรัฐและเม็กซิโก ในขณะที่คนใกล้ชิดของไบเดนแนะนำให้เขาเน้นเรื่องภาพลักษณ์ของทรัมป์ที่มีคดีความมากมาย รวมถึงบทบาทของทรัมป์ในการสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงที่บุกรัฐสภาสหรัฐในเดือนมกราคม 2564 การดีเบตรอบต่อไปจะจัดขึ้นในวันที่ 10 ก.ย. โดยสถานีโทรทัศน์ ABC


ประธานาธิบดีวิลเลียม รูโต ผู้นำเคนยา ประกาศว่า รัฐบาลได้ตัดสินใจถอนข้อเสนอการปรับขึ้นอัตราภาษี หลังจากเผชิญการประท้วงอย่างหนักจากประชาชนทั่วประเทศ แม้รัฐสภาเคนยาจะผ่านกฎหมายปฏิรูปภาษีเมื่อวานนี้ แต่ปธน.รูโตยืนยันว่าเขาจะไม่ลงนามในกฎหมายดังกล่าว กฎหมายการเงินปี 2024 มีเนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับการปรับเพิ่มอัตราภาษีเพื่อให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 346,700 ล้านชิลลิ่ง หรือประมาณ 2,670 ล้านดอลลาร์ เพื่อนำไปอุดหนุนงบประมาณวงเงิน 31,000 ล้านดอลลาร์สำหรับปีงบประมาณ 2024/2025 จากการประท้วงเมื่อวานนี้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 150 ราย เนื่องจากตำรวจเคนยาใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนจริงในการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมหลายร้อยคนที่บุกเข้าไปในรัฐสภาในกรุงไนโรบีเพื่อประท้วงมาตรการปฏิรูปภาษี กลุ่มผู้ชุมนุมยังจุดไฟเผาบางส่วนของอาคารรัฐสภา และทำลายเฟอร์นิเจอร์รวมถึงธงชาติภายในรัฐสภา ปธน.รูโตกล่าวว่า รัฐบาลจะใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพื่อลดรายจ่ายของรัฐบาล ซึ่งรวมถึงการตัดงบประมาณการเดินทางของประธานาธิบดี และลดการซื้อรถยนต์ โดยมาตรการเหล่านี้จะถูกบังคับใช้ต่อทุกภาคส่วนของรัฐบาล รวมถึงสำนักงานบริหารของประธานาธิบดี, รัฐสภา, และหน่วยงานด้านตุลาการ


Amazon ได้กลายเป็นบริษัทที่ 5 ในสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าตลาดแตะ 2 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก โดยได้รับแรงหนุนจากกระแสเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ราคาหุ้น Amazon พุ่งขึ้น 3.4% สู่ระดับ 192.70 ดอลลาร์ ทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทพุ่งสูงขึ้นตามบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอื่นๆ อย่าง Microsoft, Apple, Nvidia และ Alphabet โดยบริการ Amazon Web Services ยังคงเป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ที่สุดในโลก และมีการเติบโตกลับมาอีกครั้งหลังจากช่วงที่ซบเซาเมื่อปีที่แล้ว ด้วยการรับรองเทคโนโลยี AI ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ Amazon ยังลงทุนในสตาร์ทอัพ AI ชื่อ Anthropic และบริษัทหุ่นยนต์ชื่อ Figure เพื่อคว้าโอกาสจากกระแส AI ที่กำลังบูม



ติดต่อโฆษณา!