ECB แจง 'Swiftflation' ไม่ใช่ปัจจัยเดียวทำให้เงินเฟ้อยุโรปสูงขึ้น

คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC ว่า Eras Tour ของ Taylor Swift ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนสูงขึ้น หลังจากคอนเสิร์ตดังกล่าวทำให้เงินสะพัดในพื้นที่การจัดงานหลายพันล้านบาท ไม่แต่เฉพาะในยุโรปแต่ยังรวมถึงประเทศอื่นๆ ที่มีทัวร์คอนเสิร์ตของศิลปินสาวชื่อดัง 

ในช่วงปีที่ผ่านมา หลายคนอาจจะได้ยินคำว่า Swiftflation หรือ Swiftonomics ผ่านเข้าหูบ้าง ซึ่งก็เป็นการอ้างอิงถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในปีที่แล้ว หลังจากเกิดการเพิ่มขึ้นของการจับจ่ายใช้สอยในภาคบริการต่าง ๆ เช่น โรงแรม เที่ยวบิน และร้านอาหาร บริเวณรอบพื้นที่การแสดงของ Taylor Swift 

นางลาการ์ด กล่าวว่า ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อภาคบริการของยูโรโซนยังคงสูงขึ้นในเดือนที่แล้ว ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่ The Eras Tour ของ Swift สามารถขายตั๋วในยุโรปได้หมดเกลี้ยง แต่ก็ยังไม่สามารถกล่าวว่าการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อในเดือนที่แล้วเกิดขึ้นเพราะศิลปินสาวเพียงคนเดียว  เพราะยังมีศิลปินคนอื่น ๆ มาจัดแสดงคอนเสิ์ตด้วยเช่นกัน 

นักวิเคราะห์ยังได้ประเมินว่า การวัดเงินเฟ้อหลักในสหราชอาณาจักรในช่วงระหว่างการแสดงของ Swift ที่ลอนดอนอาจทำให้ธนาคารกลางอังกฤษชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่คาดไว้ในเดือนกันยายน อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นรอบทัวร์เพลงใหญ่ๆ สำหรับนักร้องคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Bruce Springsteen, Pink หรือ Sting ก็ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคบริการเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน 

ทางด้าน หน่วยงานสถิติของสหภาพยุโรป เปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่ไม่รวมผลกระทบที่ผันผวนจากพลังงาน อาหาร แอลกอฮอล์ และยาสูบ ในเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 2.9% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สูงกว่าการคาดการณ์เพียงเล็กน้อย โดยปประธาน ECB กล่าวเสริมว่า ECB ก้าวหน้าอย่างมากในการควบคุมเงินเฟ้อ แต่ยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่บ้าง ตอนนี้ยุโรปอยู่ในช่วงการฟื้นตัวช้าๆ ที่เริ่มขึ้นในไตรมาสแรกและหวังว่าการฟื้นตัวจะมีความยั่งยืน 

ทั้งนี้ ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อเดือนที่แล้วเป็นครั้งแรกในรอบเกือบห้าปี โดยประกาศลดดอกเบี้ยลงเหลือ 3.75% จากระดับสูงสุดที่ 4% ขณะที่ นักวิเคราะห์คาดว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกสองครั้งในปีนี้ ในเดือนกันยายนและธันวาคม