World Wrap Up
สรุปประเด็นข่าวร้อนรอบโลก ประจำวันที่ 1 ส.ค. 67
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเดือน ก.ค. 67 ที่ระดับ 5.25 - 5.50% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 8 นับตั้งแต่เดือน ก.ย. 66 แถลงการณ์ระบุว่าเงินเฟ้อชะลอตัวลงในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง คณะกรรมการเฟดไม่คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะมีความเชื่อมั่นว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน
สหภาพยุโรป (EU) เรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้นถึงที่สุด หลังจากที่กลุ่มฮามาสกล่าวหาว่า นายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของฮามาสได้เสียชีวิตจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิสราเอลในกรุงเตหะราน โฆษกของ EU นายปีเตอร์ สตาโน กล่าวว่า "เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้นถึงที่สุด และหลีกเลี่ยงการสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้น เนื่องจากจะไม่มีประเทศใด ชาติใดที่จะได้ประโยชน์จากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง” ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ประกาศจัดการประชุมฉุกเฉิน หลังเกิดเหตุลอบสังหารนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส ที่กรุงเตหะรานของอิหร่าน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมประกาศกฎใหม่เพื่อเพิ่มอำนาจในการสกัดกั้นการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปจากบางประเทศไปยังบริษัทผลิตชิปของจีน โดยประเทศพันธมิตรที่ส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปไปยังจีน เช่น ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ และเกาหลีใต้ จะได้รับการยกเว้น ข่าวนี้ทำให้หุ้นของบริษัท ASML และ Tokyo Electron พุ่งขึ้นกว่า 7% ขณะที่บริษัทอื่นๆ ในญี่ปุ่นก็ปรับตัวขึ้นเช่นกันตามที่แหล่งข่าวเปิดเผย กฎใหม่นี้เป็นการขยายขอบเขตของมาตรการห้ามบริษัทต่างชาติขายสินค้าที่ผลิตโดยเทคโนโลยีของสหรัฐฯ (Foreign Direct Product Rule - FDPR) ซึ่งจะส่งผลให้โรงงานผลิตชิปของจีนประมาณ 6 แห่งที่เป็นศูนย์กลางการผลิตชิปสุดล้ำของประเทศ ถูกห้ามรับอุปกรณ์ผลิตชิปจากหลายประเทศ ประเทศหรือดินแดนที่การส่งออกอาจได้รับผลกระทบประกอบด้วยอิสราเอล ไต้หวัน สิงคโปร์ และมาเลเซีย