ความต้องการใช้ดีเซลจีนลดลงมากที่สุดในรอบ 3 ปี สะท้อนภาพเศรษฐกิจชะลอ

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานข้อมูลล่าสุดแสดงถึงความต้องการใช้น้ำมันดีเซลของจีนในเดือนมิถุนายน 2024 ลดลงถึง 11% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยตัวเลขความต้องการใช้เหลือเพียง 3.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2021 

สาเหตุหลักของการลดลงเป็นผลมาจากเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัว รวมถึงการที่จีนเปลี่ยนมาใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) แทนน้ำมันดีเซลในรถบรรทุกขนาดใหญ่ ซึ่งก็ส่งผลให้ยอดขายรถบรรทุกที่ใช้ LNG พุ่งสูงขึ้นถึง 307% เมื่อปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ การใช้ก๊าซธรรมชาติเหลวคาดว่าจะลดความต้องการน้ำมันดีเซลลงประมาณ 110,000 ถึง 120,000 บาร์เรลต่อวันในปีนี้และปีหน้า

ผลกระทบจากความต้องการที่ลดลงนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันในจีน แต่ยังสะท้อนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอของประเทศ ส่งผลให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันในปี 2024 และสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ปรับลดคาดการณ์สำหรับปี 2025 เช่นกัน 

นอกจากนี้ ผลิตผลจากโรงกลั่นน้ำมันของจีนในเดือนกรกฎาคมลดลง 6.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สี่ ซึ่งบ่งบอกถึงความยากลำบากที่โรงกลั่นต้องเผชิญในภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว