28 สิงหาคม 2567
120

รัสเซียจัดหนัก โจมตียูเครนต่อ ถล่มโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน

รัสเซียจัดหนัก โจมตียูเครนต่อ ถล่มโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน

ในวันอังคารที่ผ่านมา (27ส.ค.) รัสเซียได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อยูเครนด้วยขีปนาวุธและโดรนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย และบาดเจ็บอีกหลายคน โดยการโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธและโดรนถึง 236 ลูกใส่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญของยูเครน รวมถึงสถานีเชื้อเพลิงและพลังงาน การโจมตีดังกล่าวถูกจัดอันดับว่าเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งต่อโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน นับตั้งแต่เริ่มสงคราม 


สถานการณ์ในพื้นที่ได้รับการยืนยันจากกองทัพอากาศยูเครนที่สามารถยิงสกัดกั้นขีปนาวุธและโดรนหลายลูกได้ แต่ก็ยังมีส่วนหนึ่งที่สามารถเข้าถึงเป้าหมายและก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมาก โดยเฉพาะในเมืองเคียฟ และพื้นที่ต่างๆ เช่น เคอร์ซอน, มิโคลาอิฟ, คาร์คิฟ, ซูมี และซาโปริซเชียในเมืองคริวอีริก 


การโจมตีส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตสองรายและบาดเจ็บอีกห้าราย ทางการท้องถิ่นประกาศให้วันพุธเป็นวันไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ในพื้นที่ซาโปริซเชีย ยังมีผู้เสียชีวิตอีกสามรายจากการโจมตีครั้งนี้ การโจมตีครั้งนี้ทำให้ยูเครนเผชิญกับความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนได้กล่าวในสุนทรพจน์ประจำวันว่า การโจมตีครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การทำลายโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนอย่างไร้มนุษยธรรม แต่ยังยืนยันว่า ทีมงานซ่อมแซมจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อฟื้นฟูระบบพลังงานให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็วที่สุด


จากเหตุการณ์นี้ สหรัฐฯ ได้ออกมาประณามการโจมตีของรัสเซียอย่างหนัก โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้กล่าวถึงการโจมตีว่าเป็นการกระทำที่โหดร้ายและเป็นความพยายามของรัสเซียที่จะทำให้ชาวยูเครนต้องเผชิญกับความมืดมน ขณะที่สถาบันวิจัยเพื่อการศึกษาสงครามของสหรัฐฯ ได้ระบุว่า การโจมตีครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในชุดการโจมตีทางอากาศที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซียต่อโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน แต่ยังตั้งข้อสังเกตว่า รัสเซียน่าจะขาดแคลนทรัพยากรในการทำการโจมตีในระดับนี้อย่างต่อเนื่อง


การโจมตีทางอากาศครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ยูเครนได้ตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศต่อกรุงมอสโกของรัสเซีย ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ไม่ค่อยถูกโจมตีโดยตรงตลอดช่วงสงคราม นอกจากนี้ ยูเครนยังได้ดำเนินการรุกในดินแดนของรัสเซีย โดยเฉพาะในภูมิภาคคูร์สก์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่กำลังได้รับการตรวจสอบความปลอดภัยโดยคณะผู้แทนของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA)

ติดต่อโฆษณา!