สถานรับเลี้ยงเด็กในจีนเปลี่ยนเป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ท่ามกลางวิกฤตประชากรสูงวัย
เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับการลดลงของอัตราการเกิดและจำนวนประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สถานรับเลี้ยงเด็กหลายแห่งต้องปิดตัวหรือปรับเปลี่ยนเป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ หนึ่งในตัวอย่างคือสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งหนึ่งในเมืองจินหัว มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งได้ปรับพื้นที่มาให้บริการผู้สูงอายุแทน
มีการคาดการณ์ว่าในปี 2040 ประชากรจีนอายุมากกว่า 65 ปี จะเพิ่มขึ้นเป็น 30% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งจะทำให้นโยบายเศรษฐกิจสีเงินเป็นการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนนำเสนอสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่เหมาะกับผู้สูงอายุ นอกจากการปรับเปลี่ยนศูนย์รับเลี้ยงเด็กเป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแล้ว ประเทศจีนยังได้ออกนโยบายอื่น ๆ เพื่อรับมือกับวิกฤตประชากรสูงวัย หนึ่งในนั้นคือการเร่งรัดพัฒนาอุตสาหกรรมบริการสำหรับผู้สูงอายุ เช่น สินค้าทางสุขภาพและเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่มุ่งเป้าไปยังการดูแลผู้สูงอายุ เช่น ระบบบ้านอัจฉริยะสำหรับผู้สูงวัย หุ่นยนต์ช่วยดูแล และกล่องยาอัจฉริยะที่ใช้ AI ในการจัดการยา
รัฐบาลจีนยังได้ส่งเสริมโครงการที่เรียกว่า "Silver Age Action" เพื่อกระตุ้นให้ผู้สูงอายุที่มีความรู้ความสามารถ เช่น ในสาขาการศึกษา วิทยาศาสตร์ และเกษตรกรรม ออกมาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ที่ยังไม่พัฒนา โดยโครงการนี้มีเป้าหมายช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในเรื่องบำเหน็จบำนาญ และเพิ่มรายได้จากภาษีจากกลุ่มแรงงานสูงอายุที่ยังสามารถทำงานได้