ตามคาด ! เฟดหั่นดอกเบี้ย 0.25% สะท้อนภาพเงินเฟ้อและการชะลอตัวของตลาดแรงงาน
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงอีก 0.25% ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน 2567 สู่ระดับ 4.50 - 4.75% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นี่ถือเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในปีนี้ หลังจากที่เคยลดลง 0.50% ในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี ตั้งแต่ปี 2563
เฟดยังแถลงถึงความคืบหน้าของอัตราเงินเฟ้อที่มุ่งสู่เป้าหมาย 2% และระบุว่าเศรษฐกิจยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แม้จะมีการชะลอตัวในตลาดแรงงาน แสดงให้เห็นถึงการปรับสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจและการควบคุมเงินเฟ้อที่เฟดมุ่งหวัง
นอกจากนี้ ประธานเฟด ยังตอบคำถามเกี่ยวกับแรงกดดันทางการเมืองต่อการดำรงตำแหน่งของเขา หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง โดยพาวเวลกล่าวว่า เขาจะไม่ลาออกหากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขอให้เขาลาออก และชี้แจงว่า ประธานาธิบดีไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการปลดหรือปรับลดตำแหน่งของเขา ขณะเดียวกันยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ชัยชนะของทรัมป์จะไม่มีผลกระทบในทันทีต่อการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของธนาคารกลาง อย่างไรก็ตาม นายสตีฟ มนูชิน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของทรัมป์กล่าวว่า นโยบายทางเศรษฐกิจของทรัมป์ที่อาจมีผลกระทบต่อการจ้างงานและเสถียรภาพของราคานั้นอาจส่งผลในอนาคตต่อแนวทางของธนาคารกลางในการดำเนินนโยบายตามเป้าหมาย