“สิงคโปร์” โค่น “นิวซีแลนด์” ขึ้นอันดับ 1 “รับมือโควิด-19 ดีที่สุดในโลก”
Highlight
“สิงคโปร์” โค่น “นิวซีแลนด์” ขึ้นอันดับ 1 “รับมือโควิด-19 ดีที่สุดในโลก” ส่วนการปรับตัวสู้โควิด-19 ของ “ไทย” ร่วงจากอันดับ 9 มาอยู่อันดับที่ 13
วันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา สำนักข่าว Bloomberg รายงานการจัดอันดับเขตเศรษฐกิจที่สามารถรับมือต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 (Covid Resilience Ranking) จากทั้งหมด 53 เขตเศรษฐกิจของโลก ประจำเดือนเมษายน 2564 ปรากฏว่าคะแนนรวม “สิงคโปร์” โค่น “นิวซีแลนด์” ขึ้นไปครองอันดับ 1 เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่มีการจัดอันดับเรื่อยมา
10 อันดับเขตเศรษฐกิจ “รับมือโควิด-19 ดีที่สุดในโลก”
1. สิงคโปร์ 79.7 คะแนน
2. นิวซีแลนด์ 79.6 คะแนน
3. ออสเตรเลีย 76.2 คะแนน
4. อิสราเอล 74.9 คะแนน
5. ไต้หวัน 74.7 คะแนน
6. เกาหลีใต้ 72.7 คะแนน
7. ญี่ปุ่น 70.9 คะแนน
8. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 69.7 คะแนน
9. ฟินแลนด์ 68.9 คะแนน
10. ฮ่องกง 68.2 คะแนน
“ไทย” หล่นจากอันดับ 9 ลงมาอยู่ในอันดับที่ 13 ด้วยคะแนนการปรับตัวต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 66.7 คะแนน
ส่วน “สิงคโปร์” แซง “นิวซีแลนด์” ประเทศที่ยืนหนึ่งในรับมือโควิด-19 ขึ้นมาครองแชมป์ได้สำเร็จ เนื่องจาก “สิงคโปร์” ลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รายวันจนเกือบเป็นศูนย์ เนื่องจากการสกัดกั้นบริเวณชายแดนและมาตรการกักตัวที่เคร่งครัด และประชากรเกือบ 1 ใน 5 ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว ส่วน “นิวซีแลนด์” แม้อัตราการติดเชื้อต่ำ แต่การบริการวัคซีนแก่ประชาชน (ณ วันที่เผยแพร่รายงาน) คิดเป็นเพียง 1.9% ของจำนวนประชากรเท่านั้น
แต่รายงานก็ชี้ว่าการฉีดวัคซีนเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถเป็นตัวชี้วัดได้ว่าจะควบคุมการแพร่ระบาดได้ เนื่องจากตัวอย่างสถานการณ์เดือนเมษายนในหลายประเทศ สะท้อนว่า แม้สัดส่วนผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ต่อจำนวนประชากรจะอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ยังเผชิญปัญหาเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและรุนแรง
10 หลักเกณฑ์ที่นำมาวิเคราะห์ในการจัดอันดับ
1. จำนวนติดเชื้อโควิด-19 ต่อประชากร 100,000 คน
2. อัตราการเสียชีวิต
3. ยอดการเสียชีวิตต่อประชากร 1 ล้านคน
4. อัตราการติดเชื้อโควิด-19
5. จำนวนประชากรที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19
6. ผลพวงจากการล็อกดาวน์
7. ความคล่องตัวของชุมชน
8. การพยากรณ์การเติบโต GDP ปี 2021
9. หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
10. ดัชนีการพัฒนามนุษย์
แหล่งที่มา : https://www.bloomberg.com/graphics/covid-resilience-ranking/
#รู้ไว้ไม่ตกเทรนด์คลิกอ่านทันข่าว